1. ตะกรุดโทนหลวงพ่อกวยวัดโฆสิตารามวัดบ้านแค จ.ชัยนาท ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก โดยเกจิอาจารย์ดัง พุทธคุณดี เมตรตรามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย
ตะกรุดหลวงพ่อจําลอง: สมบูรณ์แบบและบรรเทาความเครียดและความวิตกกังวลของเด็ก
ขุนแผนหลวงพ่อกวย: การบรรเทาความเครียดและความวิตกกังวลสําหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่
ตะกรุดหลวงพ่อกวย: การบรรเทาความเครียดและความเหนื่อยล้าบรรเทาความวิตกกังวลและเพิ่มสุขภาพ
ตะกรุดหลวงพ่อสุด: ความต้านทานการกัดกร่อน,ความต้านทานการซีดจาง,ทนต่ออุณหภูมิสูง,กาวฟรี
หลวงพ่อกวยแท้ 100: ความต้านทานการกัดกร่อน,ความต้านทานการซีดจาง,ทนต่ออุณหภูมิสูง,กาวฟรี ตะกรุดโทนหลวงพ่อกวยวัดโฆสิตารามวัดบ้านแค จ ชัยนาท ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก โดยเกจิอาจารย์ดัง พุทธคุณดี เมตรตรามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย อัปมงคลคุณไสยมนต์ดําทูตผีวิญญาณชั่วร้ายต่างๆ ความยาว ๘ ๕ cm กว้าง ๑ ๕ cm สินค้าหลักร้อย สวยหลักหมื่น บันดาลความสําเร็จ โชคลาภ งานปราณีต สวยงาม ถ่ายจากสินค้าจริงในร้าน เหมาะสัมหรับเป็นของฝ่ากสําหรับผู้ใหญ่ที่เราเคารพนับถือ มีบริการเก็บเงินปลายทาง ตรวจดูสินค้าให้เรียบร้อย คาถา บูชาครู ตะมังถัง ปะกาเสนโต สัทธาอะหะ อิ มะ อะ วิ ตะ อุ อะ มิ มะ สะ นะ โม จินดามณี สะหะโกฏิ สัตตังเทวานัง มะนุสสะเทวานัง อะมะนุสสะเทวานัง สะมณีจิตตัง บุตรีจิตตัง อาคัจเฉยหิ ปะริเทวันติ ปิยังมะมะ มณีจินดา ปัญจะทานัง ทาสาโกมัง ทาสีโกมัง ปิลันทัสสะ นะมามิหัง ประวัติ หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร ผู้วิเศษแห่งเมืองสรรคบุรี หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร มีนามเดิมว่า กวย ปั้นสน ท่านเกิดเมื่อวันที่ 2 พ ย พ ศ 2448 ปีมะเส็ง ณ หมู่บ้านแค หมู่ 9 ต บางขุด อ สรรคบุรี จ ชัยนาท เป็นบุตรของ คุณพ่อ ตุ้ย ปั้นสน บ้านเดิมอยู่ อ วิเศษชัยชาญ จ อ่างทอง และคุณแม่ต่วน เดชมา คนบ้านแค ทั้งสองมีบุตร-ธิดารวม 5 คน คนที่ 1 ชื่อ นายตุ๊ ปั้นสน ถึงเเก่กรรม) คนที่ 2 ชื่อ นายคาด ปั้นสน ถึงเเก่กรรม) คนที่ 3 ชื่อ นายชื้น ปั้นสน ถึงเเก่กรรม) คนที่ 4 ชื่อ นางนาค ปั้นสน ถึงเเก่กรรม) คนที่ 5 หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร มรภาพเเล้ว) เมื่อเด็กชายกวยเติบใหญ่ บิดาส่งไปเรียนหนังสือกับหลวงปู่ขวด วัดบ้านแค แต่หลังจากหลวงปู่ขวดมรณภาพลง ได้นําเด็กชายกวยมาเรียนหนังสือขอมและบาลีกับ อาจารย์ดํา วัดหัวเด่น ห่างจากวัดบ้านแคไม่มากนัก จนเชี่ยวชาญหนังสือขอมและบาลีชนิดหาตัวจับยาก จากนั้นเด็กชายกวยได้เลิกเรียนหันมาช่วยทางบ้านทําไร่ไถนาเลี้ยงครอบครัว ครั้นครบอายุบวชอายุ 20 ปี จึงเข้าพิธีอุปสมบททดแทนคุณบุพการีเฉกเช่นบุรุษชาติอาชาไนยจะพึ่งกระทํา โดยมี พระชัยนาทมุนี เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อปา วัดโบสถ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ เเละพระอาจารย์หริ่ง เป็นอนุสาวนาจารย์ เมื่อวันที่ 5 ก ค พ ศ 2467 เวลา 15 นาฬิกา 17 นาที ณ พระอุโบสถวัดโบสถ์ ต โพธิ์งาม อ สรรคบุรี จ ชัยนาท ได้รับฉายาว่า ชุตินฺธโร แปลว่า โลกนี้มีแต่ความวุ่นวายของโลก หนักไปด้วยกิเลส ตัณหาคือ โลภ โกรธ หลง ทั้งสิ้น หากผู้ใดละกิเลส ตัณหาได้ก็จะถึงฝั่งพระนิพพาน วิชาเเหล่-เทศน์ เอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร หลังพิธีอุปสมบท หลวงพ่อกวย จําพรรษาอยู่ที่วัดบ้านแค ขณะนั้นมี หลวงปู่มา เป็นเจ้าอาวาส หลวงพ่อกวย จึงหัดเทศน์เวสสันดรชาดก กันฑ์กุมาร, ทานกัณฑ์ และมักชอบเทศน์แหล่หญิงหม้าย โดยจะเทศน์กล่าวถึงพระนางมัทรี ตอนที่พระเวสสันดรถูกเนรเทศออกนอกเมือง ไปบวชอยู่ในป่า หลักฐานในเรื่องนี้คือใบลานเทศน์ต่าง ๆ ที่หลวงพ่อเก็บไว้ เเละบางฉบับท่านได้ประทับตราสิงห์ชูคอเอาไว้ด้วย บางฉบับหลวงพ่อเขียนว่า พระกวยสร้างถวาย หรือพระกวยสร้างส่วนตัว นอกจากนี้มีบันทึกว่า หลวงพ่อ ยังได้ไปศึกษาวิชาแพทย์โบราณกับ หมอเขียน เพื่อเรียนวิชารักษาโรคระบาด หรือโรคห่าเเละ โรคไข้ทรพิษ ด้วย ฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์ ต่อมาในวันที่ 19 มิถุนายน พ ศ 2472 ท่านได้มาอยู่ที่วัดวังขรณ์ ต โพธิ์ชนไก่ 2 พรรษา เรียนธรรมโท แต่พอสอบไล่กลับเป็นไข้ไม่สบายจึงไม่ได้สอบ หลวงพ่อกวย จึงฉุกคิดได้ว่าด้านปริยัติธรรมเราก็เรียนมามากพอแล้ว จึงอยากจะหันไปเรียนวิปัสสนากรรมฐานและวิชาอาคมและวิธีทําเครื่องรางของขลังบ้าง คิดได้แล้วจึงไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ หลวงพ่อศรี วิริยะโสภิต แห่งวัดพระปรางค์ จ สิงห์บุรี จนเรียนสําเร็จวิชาทําแหวนนิ้ว สังเกตใต้ท้องวงแหวนมักจะตอกอักขระตัวขอมว่า อิติ และท่านยังได้ได้เรียนวิชาอีกหลายอย่างกับหลวงพ่อศรี ยันต์เเรกที่หลวงพ่อสําเร็จเเละมั่นใจมาก คือ ยันต์มงกุฎพระเจ้า ซึ่งหลวงพ่อจะใช้ปลุกเสกพระเเละเครื่องรางต่าง ๆ ท่านจะใช้ยันต์นี้ลงหลังเหรียญรุ่นเเเรก บรรจุครบสูตร เเละยังได้ทําเป็นตรายางเพื่อประทับผ้ายันต์เเละรูปถ่ายบางรุ่น เพื่อคุ้มครองเเละช่วยเสริมดวงชะตาราศี จนกลายมาเป็นชื่อยันต์เสริมดวงที่เรียกกันนั่นเอง นอกจากนี้ หลวงพ่อกวย ยังได้วิชายันต์เเละคาถานะโมตาบอดจากหลวงพ่อศรีด้วย นอกจากใช้จารเครื่องรางเเล้ว ยังใช้บรรจุที่หลังเหรียญรุ่นสอง หลังจากเรียนวิชากับหลวงพ่อศรีสําเร็จ ท่านก็มาจําพรรษาอยู่วัดหนองตาแก้ว ต โคกช้าง อ เดิมบางนางบวช จ สุพรรณบุรี ที่วัดนี้ หลวงพ่อปลูกต้นสมอไว้ 1 ต้น เคยมีพระภิกษุชื่อ หลวงตาสมาน ไปอยู่วัดหนองตาแก้ว อุ้มไก่แจ้ให้ไปนอนบนต้นสมอ ปรากฏว่าไก่ไม่นอน ทําอย่างไรก็ไม่ยอมนอน คาดว่าหลวงพ่อกวยลงวิชาบางอย่างเอาไว้ ทําให้ไก่หวาดกลัว ขณะนั้นหลวงพ่อกวยเพิ่งอายุ 28 ปี 8 พรรษา แสดงว่าหลวงพ่อ มีอาคมขลังตั้งแต่ยังเป็นพระหนุ่ม ซึ่งต้นสมอนี้ ปัจจุบันยังอยู่เเละไม่มีใครกล้ายุ่งเกี่ยวหรือลบหลู่ดูหมิ่น เพราะกลัวอาถรรพ์ ยิ่งเคยมีพระขึ้นไปตัดกิ่งไม้แล้วมรณภาพยิ่งได้รับการกล่าวขานถึงความขลังมากขึ้น ได้ตําราดีมาจากโพรงไม้อย่างไม่น่าเชื่อ ในวันที่ 1 มิ ย พ ศ 2477 หลวงพ่อกวย จําพรรษาอยู่ที่วัดหนองแขม ต ดงคอน อ สรรคบุรี จ ชัยนาท อีก 1 พรรษา ได้เรียนแพทย์แผนโบราณต่อกับโยมป่วน บ้านหนองแขม และเรียนแพทย์แผนโบราณต่อกับหมอใย บ้านบางน้ําพระ ขณะพํานักที่วัดหนองแขม ได้มีเพื่อนภิกษุชื่อ แจ่ม ไปพบตําราสมุดข่อยวางในโพรงไม้ แต่เอาออกมาไม่ได้ เพราะตํารามีอาถรรพณ์แรง คล้ายมีเทพและเทวดารักษา จึงชวนหลวงพ่อกวยให้ไปดู หลวงพ่อไปดู พบว่ามีตําราอยู่โพรงไม้จริงและมีรอยคนเอาพวงมาลัย